ข้อมูลมหาวิทยาลัย,บัณฑิตวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นต้องที่ JPSS > ข่าวสาร/ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเข้าศึกษาต่อ > แนะนำการศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น > คู่มือการจัดการภาวะวิกฤติสำหรับชาวต่างชาติ > 「สถานการณ์ฉุกเฉิน (กลางดึก วันหยุด)」
ในการใช้ชีวิตต่างประเทศ การเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุล้วนเป็นเรื่องที่ชวนให้กังวลใจได้มาก เช่น จะไปรพ.ได้อย่างไร จะสื่อสารกับรพ.รู้เรื่องไหม ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ มีคนมาคอยช่วยดูแลเราอยู่แถวนี้บ้างไหม เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดีการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ถ้าเป็นการเจ็บป่วยที่ยังพอทนไหว เราอาจมีเวลาหาข้อมูลว่าจะต้องไปที่รพ.ไหนอย่างไร แล้วอาจทนไว้ไปในเช้าวันรุ่งขึ้นได้ แต่บางกรณีเราอาจไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้จนต้องเรียกรถพยาบาลมารับตัวไปรพ.ทันที ซึ่งการไปรพ.ก็ชวนให้กังวลใจได้มากพออยู่แล้ว ยิ่งหากต้องมาป่วยกะทันหันคงยิ่งฉุกละหุกและตื่นตระหนกจนไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไรดี
จากนี้จะอธิบายว่าหากเจ็บป่วยกะทันหันหรือเกิดอุบัติเหตุแล้วควรจะต้องทำอย่างไร รวมถึงวิธีการเรียกรถพยาบาล และการไปหาหมอกลางดึกหรือวันหยุดด้วย
หากเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจถึงแก่ชีวิตขอให้เรียกรถพยาบาลทันที ซึ่งด้านล่างนี้คือวิธีการเรียกรถพยาบาล
ในปัจจุบันมีคนบางคนที่เรียกรถพยาบาลให้มารับทั้งที่ไม่ใช่สถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงจริงทำให้รถพยาบาลเสียโอกาสที่จะไปช่วยเหลือผู้ป่วยหนักที่อาจถึงแก่ชีวิตและต้องการรถพยาบาลจริง ซึ่งเคยมีกรณีที่รถพยาบาลไปช้าเพราะสาเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้ว ดังนั้นทางสถานีดับเพลิงและป้องกันภัยพิบัติโตเกียวจึงได้กล่าวไว้ดังต่อไปนี้ 「รถพยาบาลเป็นรถสำหรับผู้ป่วยหรือบาดเจ็บที่ต้องได้รับการส่งตัวไปรพ.โดยเร่งด่วนอันเนื่องมาจากเหตุเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ หากมีคนเรียกรถพยาบาลออกไปโดยไม่ใช่เหตุเร่งด่วนแล้วเกิดอุบัติเหตุที่ต้องใช้รถพยาบาลเข้าไปช่วยเหลือจริงขึ้น จะทำให้รถพยาบาลต้องวิ่งไกลขึ้นและทำให้รถพยาบาลไปถึงได้ช้า ซึ่งนั่นอาจทำให้เราไม่สามารถช่วยชีวิตคนที่น่าจะช่วยชีวิตไว้ได้ กรณีที่ไม่เร่งด่วนและยังสามารถไปรพ.เองได้ ขอให้เลือกใช้การเดินทางอื่นๆนอกเหนือจากรถพยาบาลด้วย」
ถ้าเช่นนั้นต้องเจ็บป่วยระดับใดถึงควรจะเรียกรถพยาบาลมารับ ซึ่งเรื่องนี้ทางสถานีดับเพลิงและป้องกันภัยพิบัติโตเกียวได้เตรียมไว้ผ่านทาง 「ศูนย์ให้คำปรึกษารถพยาบาล」 เรียบร้อยแล้ว
ศูนย์ให้คำปรึกษารถพยาบาล:เบอร์โทร #7119 (ตลอด 24 ชม. ไม่เว้นวันหยุด)
ซึ่งสามารถโทรเข้าไปขอคำปรึกษาได้ว่าในกรณีที่มีอาการต่อไปนี้จะเรียกรถพยาบาลดีหรือไม่ หรือไม่จำเป็นต้องเรียกก็ได้ หรือการปฐมพยาบาลสามารถทำได้อย่างไร รพ.ที่สามารถไปเข้ารับการรักษามีที่ใดบ้าง เป็นต้น
นอกจากนี้ สถานีดับเพลิงในโตเกียวแต่ละแห่งยังสามารถให้ข้อมูลทางโทรศัพท์เรื่องรพ.ที่มีการออกตรวจฉุกเฉินได้ด้วย
แต่หากเป็นกรณีต่อไปนี้ขอให้เรียกรถพยาบาลทันทีโดยไม่ต้องลังเล ซึ่งในการเรียกรถพยาบาลจะไม่มีค่าใช้จ่าย
สถานพยาบาลโดยทั่วไปจะหยุดวันอาทิตย์ วันนักขัตฤกษ์ หรือวันหยุดสิ้นปีและปีใหม่ นอกจากนี้ บางที่ยังอาจหยุดในช่วงเทศกาลโอบ้ง (ไหว้บรรพบุรุษในช่วงกลางเดือนส.ค.) หรืออาจหยุดตรวจตั้งแต่ช่วงบ่ายวันเสาร์ด้วย และส่วนมากก็มักมีเวลาตรวจตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น
ดังนั้นในกรณีที่มีผู้ป่วยฉุกเฉินในช่วงวันหยุดหรือกลางดึกไปที่รพ.ขนาดใหญ่ หมอจะต้องทำการออกตรวจนอกเวลาซึ่งเรียกว่า 「การออกตรวจฉุกเฉิน」 แต่ก็ไม่ใช่สถานพยาบาลทุกแห่งที่สามารถทำการออกตรวจฉุกเฉินเช่นนี้ได้ ซึ่งในเวบไซต์ของสถานีดับเพลิงและป้องกันภัยพิบัติโตเกียวจะมีรายชื่อรพ.ที่ตรวจฉุกเฉินได้แนะนำไว้อยู่
นอกจากนี้ในโตเกียวยังมีบริการข้อมูลเสียงทางโทรศัพท์ชื่อ 「บริการแนะนำสถานพยาบาล ฮิมาวาริ」 ด้วย
เบอร์โทร: 03-5272-0303(ตอบรับ 24 ชม.)
ตอนที่เกิดเจ็บป่วยฉุกเฉินเราคงไม่มีเวลาที่จะเช็คข้อมูลได้อย่างใจเย็นนัก ดังนั้นจึงขอให้ตรวจสอบและจดบันทึกเบอร์ติดต่อของสถานพยาบาลที่มีการออกตรวจฉุกเฉินในพื้นที่ที่ตนอยู่อาศัยไว้ล่วงหน้า นอกจากนี้ บัตรประกันสุขภาพก็ยังควรพกหรือวางไว้ใกล้ตัวเสมอด้วย
อนึ่ง การออกตรวจฉุกเฉินนั้นจะเป็นการตรวจวินิจฉัยในเวลาเร่งด่วนเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่ารพ.นั้นๆเป็น 「รพ.ที่เปิดตลอด24 ชม.」 ดังนั้นแพทย์เฉพาะทางจึงอาจไม่ได้อยู่ในช่วงของการออกตรวจฉุกเฉิน และแพทย์ที่ทำการรักษาอาจมีจำนวนน้อยจึงอาจให้การรักษาได้ไม่เต็มที่บ้าง ดังนั้นหากต้องการเข้ารับการรักษาแบบนอกเวลาเร่งด่วน ขอให้โทรศัพท์เข้าไปก่อนพร้อมเล่าสถานการณ์ปัจจุบันให้ฟัง เพื่อเป็นการยืนยันว่าควรจะเข้ารับการรักษาโดยทันทีหรือไม่
การออกตรวจฉุกเฉินจะทำโดยแพทย์ซึ่งประจำอยู่ที่นั่นในเวลานั้นๆ อาจเป็นการรักษาพยาบาลเบื้องต้นหรือการตรวจอาการคร่าวๆก่อน จากนั้นอาจรอแพทย์เฉพาะทางมาตรวจวินิจฉัยในวันรุ่งขึ้นอีกครั้ง
ซึ่งหากได้มีการโทรเข้าไปเช็คก่อนว่าจะขอรับการออกตรวจฉุกเฉินได้หรือไม่ ทางรพ.จะได้แจ้งตอบรับหรือปฏิเสธให้เราได้ทราบล่วงหน้าได้ว่าขณะนั้นรพ.ไม่มีแพทย์ที่พร้อมจะรักษา ซึ่งในกรณีนี้เราควรได้มีการตรวจสอบชื่อสถานพยาบาลเตรียมไว้ล่วงหน้าหลายๆแห่งด้วย