「สิ่งเหล่านี้คืออาชญากรรม!」
ถ้าไปเจอจักรยานที่อยู่ตรงที่ทิ้งขยะแล้วดูท่าทางน่าจะยังขี่ได้คุณก็เลยเอากลับมา แบบนั้นอาจทำให้คุณกลายเป็นอาชญากรไปได้เช่นกัน ก็ในเมื่อทิ้งแล้วทำไมถึงเก็บมาไม่ได้ล่ะ? ถึงจะอ้างแบบนี้ก็ไม่สามารถพ้นผิดได้
บางเรื่องเราอาจทำไปโดยไม่ได้คิดอะไรแต่นั่นก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายบ้านเมือง การกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจให้ผลที่คาดไม่ถึงกับเราก็ได้ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าถึงจะอ้างว่าไม่รู้ก็ไม่อาจพ้นผิด
มีตัวอย่างเรื่องแบบไหนอีกบ้างที่ทำไปโดยไม่คาดคิดแล้วจะกลายเป็นเช่นนั้น
- - การเก็บเอาของที่เจอที่กองขยะกลับบ้าน
- การเก็บของที่ดูมีค่าหรือตีราคาเป็นตัวเงินได้ เช่น ทีวี จักรยาน เครื่องใช้ไฟฟ้า นั้นถือเป็นความผิดคดียักยอกทรัพย์
- - การทิ้งขยะตามอำเภอใจ
- การทิ้งขยะก็มีกฏระเบียบเช่นกัน (กฏหมายการจัดการของเสีย) หากทิ้งขยะไม่ตรงสถานที่ที่กำหนด หรือทิ้งไม่ถูกวิธี ก็ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย เช่น การนำจักรยาน ตู้เย็น หรือทีวีไปทิ้งบริเวณแม่น้ำหรือภูเขา หรือการนำขยะจากครัวเรือน เช่น ขยะสด ขวดพลาสติก ไปทิ้งตามถนนหนทางหรือที่ว่างบริเวณใกล้เคียงโดยพลการ เหล่านี้จะต้องโดนโทษปรับทั้งสิ้น
- - การเมาเหล้าแล้วขี่จักรยาน, หรือขี่จักรยานไปกางร่มไป หรือใช้โทรศัพท์มือถือไป
- ห้ามขี่จักรยานหากดื่มเหล้ามา เพราะอาจโดนโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านเยน นอกจากนี้แล้ว โตเกียวยังได้มีการแก้ไขกฏหมายจราจรทางบกให้ห้ามกางร่มหรือใช้โทรศัพท์ระหว่างขับขี่จักรยานอีกด้วย หากฝ่าฝืนต้องโดนโทษปรับไม่เกิน 50,000 เยน
- - การนำตั๋วมาขายใหม่ (Ticket resale)
- การนำตั๋วคอนเสิร์ตหรือตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆมาจำหน่ายให้แก่คนอื่นถือเป็นเรื่องที่ห้ามกระทำตามข้อบัญญัติว่าด้วยการป้องกันการก่อกวนผู้อื่นให้รำคาญ ในปัจจุบันอินเตอร์เน็ตดูจะเป็นช่องทางที่ทำให้การจำหน่ายสิ่งเหล่านี้ทำได้ง่าย แต่อย่างไรก็ขอให้ระมัดระวังให้ดีด้วย ยกตัวอย่างเช่นเห็นการประมูลตั๋วในเน็ตได้ราคาที่สูง (ค้ากำไร) ก็เลยเอาตั๋วที่ตนเองมีมาขายให้ผู้อื่นโดยการประมูลบ้าง (เป็นการทำผิดกฏหมายธุรกิจค้าของเก่า)
- - การหาเงินด้วยการประมูลของทางเน็ต
- เรื่องที่ต้องระวังในการประมูลของทางเน็ตคือเรื่องที่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 「ค้าของเก่า」 ในกรณีที่จะใช้ของนั้นในวัตถุประสงค์เพื่อการค้าขาย ถ้าเป็นของที่ตัวเองใช้แล้วและไม่มีความจำเป็นต้องใช้แล้วก็ไม่เป็นไร แต่หากเป็นกรณีที่ซื้อของมาเป็นจำนวนมากในราคาถูกจากประเทศของตนเองแล้วมาใช้หาเงินโดยการปล่อยประมูลขายทางเน็ตในประเทศญี่ปุ่น การกระทำเช่นนี้จำเป็นต้องมีใบอนุญาตประกอบการเสียก่อน หากฝ่าฝืนจะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือโนโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และถึงจะเป็นการทำผิดกฏหมายทางอินเตอร์เน็ตก็ใช่ว่าจะไม่ถูกติดตามจับ เพราะเคยมีคดีที่ตำรวจจับจริงมาแล้ว
- - การทำสำเนาที่ผิดกฏหมาย การอัพโหลดที่ผิดกฏหมาย
- การทำให้เกิดสภาพที่ไม่ว่าใครก็ดาวน์โหลดซอฟท์แวร์หรือภาพที่มีลิขสิทธิ์จากอินเตอร์เน็ตได้ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย นอกจากนี้ การนำเอาภาพยนต์ที่มีลิขสิทธิ์เช่นตัวการ์ตูนในภาพยนตร์การ์ตูนไปแปะลงบนโฮมเพจของตนเองโดยพลการ หรือการนำเอาเนื้อเพลงที่เป็นที่นิยมไปเขียนลงในบล็อกของตนเอง เหล่านี้ก็เข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฏหมายเช่นกัน (แต่การกระทำเหล่านี้จะเป็นความผิดก็ต่อเมื่อผู้ถือลิขสิทธิ์ฟ้องร้องต่อผู้นำไปตีพิมพ์เผยแพร่)
- - การขายโทรศัพท์มือถือของตัวเอง การซื้อโทรศัพท์มือถือของผู้อื่น
- ห้ามขายโทรศัพท์มือถือที่เป็นชื่อของตนเองให้แก่ผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทผู้ให้บริการมือถือ หรือห้ามซื้อมือถือที่เป็นชื่อของผู้อื่นมาใช้เด็ดขาด (กฏหมายป้องกันการใช้งานในทางมิชอบของบริษัทผู้ให้บริการมือถือ) นอกจากนี้ การให้ข้อมูลเท็จในการทำสัญญาเปิดบริการโทรศัพท์มือถือ เช่น ชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด ก็ถือเป็นความผิดเช่นกัน
- - การใช้ตั๋วรายเดือนของเพื่อน
- ห้ามใช้ตั๋วโดยสารรายเดือนของเพื่อนในการขึ้นรถไฟ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายธุรกิจรถไฟใต้ดิน หากถูกพบจะถูกปรับเป็นจำนวนเงินที่มากและจะต้องถูกยึดตั๋วเดือนนั้นๆ ไม่เฉพาะตั๋วโดยสารรายเดือนรถไฟเท่านั้น แต่ตั๋วฟรีพาสสำหรับเสาร์อาทิตย์ หรือตั๋วท่องเที่ยวระยะสั้น ที่มีลักษณะการใช้งานใกล้เคียงกัน ก็ห้ามใช้พร้อมกับเพื่อนแม้แต่ใบเดียว ยกเว้นตั๋วโดยสารรายเดือนของรถบัสที่ไม่ระบุชื่อผู้ใช้บนบัตร แต่เขียนว่า 「อนุญาตแก่ผู้ถือบัตร」 ซึ่งใครก็ตามที่ถือบัตรรายเดือนใบนั้นจะสามารถใช้ได้ทันที
- - อย่าคิดอะไรง่ายกินไป
- การไม่ปฏิบัติตามกฏหมายไปจนถึงการตั้งใจกระทำผิดกฏหมายนั้น ทั้งหมดล้วนมาจากความคิดหละหลวมเพียงเล็กน้อยที่ว่า 「แค่นี้คงไม่เป็นไร」 「แค่นี้คงไม่มีใครเอาผิด」 「ทุกคนเขาก็ทำกัน」 ซึ่งความคิดที่หละหลวมเช่นนั้นเป็นการทำให้ชีวิตตนเองตกต่ำลงและทำให้ตนเองจะต้องเสียใจไปจนตลอดชีวิต
- - อย่าตระหนี่
- 「ไม่มีหนทางที่จะไม่ต้องใช้เงินได้บ้างหรือ」 ด้วยความคิดตระหนี่เพียงเช่นนี้อาจนำไปสู่เรื่องแย่ในอนาคตได้ เสียดายของที่เพิ่งซื้อมาจัง ถ้าใช้ของเพื่อนแทนได้ก็ดีสิ หรือถ้าได้ของนั้นมาเลยก็ดีสิ หรือถ้าก๊อปปี้มาได้ก็ดีสิ ซึ่งความคิด 「อยากประหยัดเงิน」 เพียงเล็กน้อยเหล่านั้นอาจทำให้เราต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนมากในอนาคตเพราะเนื่องมาจากกลายเป็น 「ผู้ก่อคดีอาชญากรรม」 ได้
- - อย่าทำให้เกิดช่องโหว่ ต้องเป็นผู้มีความรู้เสมอ
- เคยมีกรณีที่เหยื่อถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำความผิดโดยที่ไม่รู้ตัวมาแล้วเช่นกัน เช่นโดนคนไม่รู้จักมาฝากให้ถือของที่สนามบินก็เลยรับฝากถือให้ด้วยความใจดีและไม่ได้คิดอะไร ซึ่งในปัจจุบันก็มีการกระทำความผิดที่เรียกว่า 「Re-shipping」 คือการยัดเยียดฝากสินค้าที่ซื้อมาโดยใช้บัตรเครดิตซึ่งได้มาอย่างผิดกฏหมายใส่มือผู้รับไว้ ดังนั้นจึงขอให้หมั่นดูข่าว อ่านหนังสือพิมพ์ และสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงทุกวัน ซึ่งนั่นเท่ากับได้รับรู้ความเป็นไปของสังคมที่อาศัยและเป็นการติดเสาอากาศทางสังคมให้กับตนเองด้วย
แนะนำทุนการศึกษา
ค้นหาสถานที่ศึกษาต่อ
