ข้อมูลมหาวิทยาลัย,บัณฑิตวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นต้องที่ JPSS > ข่าวสาร/ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเข้าศึกษาต่อ > แนะนำการศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น > คู่มือการจัดการภาวะวิกฤติสำหรับชาวต่างชาติ > 「เกี่ยวกับระบบประกัน」
บางครั้งนักศึกษาต่างชาติก็เลือกที่จะไม่ไปรพ.แม้ว่าจะเจ็บป่วยก็ตาม เหตุผลก็เพราะไม่แน่ใจว่าค่าใช้จ่ายจะมากน้อยขนาดไหน หรือบางทีก็เสียดายเงินค่ารักษา แต่หากได้เข้าประกันตนในระบบประกันสุขภาพแล้ว ค่ารักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายโดยผู้ติดต่อประสานงานจะเหลือเพียง 30% เท่านั้น ซึ่งค่าเบี้ยประกันสำหรับกรณีของนักศึกษาต่างชาติก็มีระบบลดหย่อนทำให้เบี้ยรายเดือนไม่แพงมากนัก
ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่า ฉันจะไม่ป่วยเข้ารพ.ให้ต้องเป็นภาระของใครอย่างเด็ดขาด เพราะเมื่อต้องมาใช้ชีวิตในต่างประเทศที่ไม่คุ้นเคยกว่า 1 ปีหรือ 2 ปี ร่างกายก็อาจอ่อนแอลงได้เนื่องจากสภาพอากาศ อาหารการกิน หรือสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนั้นแล้ว การบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ยิ่งหากเจ็บป่วยแล้วปล่อยทิ้งไว้ อาการก็จะยิ่งแย่ลงและไม่ได้ลำบากเฉพาะตนเองเท่านั้น แต่ยังอาจก่อความลำบากให้แก่คนรอบข้างไปด้วยก็ได้
การเข้าประกันตนในระบบประกันสุขภาพของรัฐนั้นถือเป็นหน้าที่และสิทธิของประชาชนอย่างหนึ่ง ซึ่งแม้แต่คนต่างชาติก็สามารถเข้าประกันตนได้ หากเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในประเทศญี่ปุ่นหรือย้ายที่อยู่อาศัยก็อย่าลืมดำเนินขอสิทธิ์นี้ด้วย
สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้ว ประชาชนทุกคนต้องเข้าสู่ระบบการประกันของรัฐ ซึ่งในกรณีของนักศึกษาต่างชาติก็จะต้องทำประกัน 「ประกันสุขภาพแห่งชาติ」 เช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้จะดำเนินการโดยหน่วยงานปกครองท้องถิ่น และต้องไปดำเนินการและเสียค่าประกันตนที่ศูนย์ราชการปกครองท้องถิ่นซึ่งตนอาศัยอยู่ และหากเราได้เข้าสู่ระบบประกันตนแล้ว ค่ารักษาพยาบาลที่ต้องจ่ายโดยผู้ติดต่อประสานงานจะเหลือเพียง 30% เท่านั้น
บุคคลที่สามารถทำประกันสุขภาพแห่งชาติได้คือบุคคลดังต่อไปนี้
กรณีที่คนต่างชาติอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเกิน 1 ปีสามารถขอเข้าประกันตนได้ อย่าคิดว่าเสียดายเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย แล้วหากเกิดการเจ็บป่วยขึ้นมาก็จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นด้วยตนเอง
อนึ่ง หากเป็นการอยู่อาศัยระยะสั้นไม่ถึง 1 ปีไม่สามารถขอเข้าประกันตนได้
ต้องไปดำเนินการแจ้งประกันตนที่ศูนย์ราชการปกครองท้องถิ่น (หมู่บ้าน เทือง เขต) ภายใน 14 วันหลังทำการย้ายเข้าไปอยู่อาศัยในท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งในการดำเนินการจำเป็นจะต้องลงทะเบียนอยู่อาศัยด้วย (resident registration) กรณีที่ลาออกจากบริษัทและไม่มีประกันสุขภาพแล้ว หรือในกรณีของเด็กเกิดใหม่ก็เช่นกัน จำเป็นต้องไปแจ้งขอเข้าประกันสุขภาพไว้ด้วย หากดำเนินการแจ้งประกันตนช้าจนเกินวันที่ไปอาศัยอยู่ที่นั่น อาจมีการรวมยอดเงินค่าประกันตนจนต้องจ่ายเป็นจำนวนที่สูงในคราวเดียวก็ได้
อนึ่ง ในกรณีต่อไปนี้ไม่ครอบคลุมอยู่ในการประกันสุขภาพของรัฐ ขอให้ระมัดระวังด้วย
กรณีของนักศึกษาต่างชาติสามารถขอลดหย่อนค่าประกันได้ โดยค่าเบี้ยประกันสุขภาพของรัฐจะกำหนดจากรายได้ของรัฐในปีก่อนหน้า ซึ่งวิธีการคำนวณค่าเบี้ยในการประกันสุขภาพจะแตกต่างกันไปตามแต่เขตการปกครองท้องถิ่นจะคิด ดังนั้นรายละเอียดเรื่องนี้ขอให้ติดต่อกับผู้ประสานงานดูอีกครั้ง และในการขอลดหย่อนค่าประกันตนนั้นจำเป็นต้องมีการยื่นคำขอไว้ก่อนด้วย ดังนั้นอย่าลืมที่จะยื่นไปพร้อมกับการดำเนินการขอเลย