ข้อมูลมหาวิทยาลัย,บัณฑิตวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นต้องที่ JPSS > ข่าวสาร/ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเข้าศึกษาต่อ > แนะนำการศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่น > คู่มือการจัดการภาวะวิกฤติสำหรับชาวต่างชาติ > 「โทรศัพท์จะยังใช้ได้ในยามเกิดภัยพิบัติหรือไม่?」
หากตนเองต้องประสบกับภัยพิบัติ ย่อมอยากแจ้งข่าวสารสถานการณ์ให้ครอบครัวหรือคนรู้จักทราบโดยเร็ว หรือในทางกลับกัน หากครอบครัวหรือคนรู้จักอยู่ในพื้นที่ที่ประสบกับภัยพิบัติเราก็ย่อมอยากรู้สถานการณ์ความปลอดภัยของพวกเขาโดยเร็วเช่นกัน และในสถานการณ์ของภัยพิบัติ ไม่ว่าใครต่างก็จะพยายามโทรเข้าโทรออกเพื่อติดต่อกับคนในและนอกพื้นที่ภัยพิบัติทั้งสิ้น ซึ่งนั่นจะทำให้สัญญาณหรือชุมสายโทรศัพท์เกิดการติดขัดเป็นอย่างมากจนบางครั้งการติดต่อกันทางโทรศัพท์ก็ทำได้ยาก และยิ่งติดต่อไม่ได้ คนส่วนมากก็จะยิ่งกระหน่ำโทรซ้ำๆหลายครั้ง ทำให้คู่สายไม่เพียงพอกับการใช้งานและติดต่อยากยิ่งขึ้นเท่านั้น การส่งเมล์ด้วยโทรศัพท์มือถือก็เช่นเดียวกัน แม้ระบบการติดต่อสื่อสารจะต่างกับการโทร แต่หากมีการส่งเมล์หากันเป็นจำนวนมากก็ย่อมทำให้ระบบล่มและไม่สามารถส่งเมล์ได้เช่นกัน
ถ้าเช่นนั้นแล้ว มีวิธีการติดต่อสื่อสารใดๆในยามเกิดภัยพิบัติได้อีกหรือไม่
บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือแต่ละเจ้ามักจะมีการจำกัดการสื่อสารเพื่อไม่ให้เกิดการล่มทั้งระบบเมื่อมีการใช้สายเป็นจำนวนมาก เช่นตอนที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่นีงาตะจูเอทซึเมื่อปี2007เดือนกรกฎาคม ระบบการติดต่อสื่อสารของบริษัท NTTdocomo และau ก็มีการจำกัดการใช้สายที่ 80~90% นั่นหมายความว่าถ้าต่อสายโทรศัพท์ก็จะพบความสำเร็จในการต่อสาย 1/10~1/5 และนอกจากนี้ ในกรณีที่เกิดไฟดับหรือสถานีจ่ายไฟประจำภูมิภาคเกิดการล่ม การบริการก็ยังจะต้องหยุดชะงักไปด้วยเช่นกัน
แต่ทั้งนี้ สถานีจ่ายไฟประจำภูมิภาคก็จะมีการเตรียมรถจ่ายไฟฉุกเฉินร่วมกับแต่ละบริษัทเพื่อให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้โดยเร็วด้วย และหากสถานีจ่ายไฟสามารถกลับมาดำเนินการได้การสื่อสารก็จะยังใช้ได้เช่นกัน
บริษัทผู้ให้บริการมือถือแต่ละเจ้าได้จัดทำ 「กระดานข้อความแจ้งเหตุภัยพิบัติ」 ขึ้นสำหรับกรณีเกิดภัยพิบัติ ด้วยระบบนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถมาฝากข้อความหรืออ่านข้อความจากกระดานข้อความนี้ได้
กรณีคนในพื้นที่ภัยพิบัติต้องการฝากข้อความไว้ :
กรณีต้องการยืนยันข้อความโดยคนนอกพื้นที่ภัยพิบัติ:
การใช้บริการกระดานข้อความนี้ค่อนข้างเป็นประโยชน์ในกรณีที่โทรศัพท์มือถือยังใช้ได้ (ยังมีสัญลักษณ์แสดงขีดสัญญาณขึ้นที่หน้าจอ) แต่ต่อสายไม่ค่อยติด
ทว่าในการจะติดต่อสื่อสารกันด้วยกระดานข้อความ ควรจะต้องมีการแจ้งไว้ให้คนในครอบครัวหรือคนรู้จักทราบถึงขั้นตอนการติดต่อสื่อสารเช่นนี้ไว้ก่อนล่วงหน้าด้วย เช่น ควรทำการบอกถึงวิธีใช้กระดานข้อความแจ้งเหตุภัยพิบัติทางโทรศัพท์มือถือ หรือจะต้องติดต่อเข้าใช้บริการด้วยเบอร์ใด เป็นต้น
บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์แต่ละเจ้ามีการดำเนินการของ 「บริการกระดานข้อความแจ้งเหตุภัยพิบัติ」 ไว้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงควรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย
เรื่องที่ต้องระวังของการใช้โทรศัพท์มือถือในช่วงเกิดเหตุภัยพิบัติอีกเรื่องก็คือแบตเตอรี่มือถือหมด จากการที่ต่อสายไม่ค่อยติดจึงจะทำให้คนยิ่งกดมือถือซ้ำๆมากขึ้น และแม้จะไม่มีสัญญาณแต่มือถือของเราก็จะยังคงใช้แบตเตอรี่ไปเรื่อยๆทำให้แบตเตอรี่ของเครื่องหมดได้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่มีอายุมากกว่า 1 ปีก็จะยิ่งหมดเร็วขึ้น ดังนั้นจึงควรใช้มือถือเท่าที่จำเป็น หากอยู่นอกพื้นที่บริการหรือไม่มีสัญญาณก็ควรปิดเครื่องเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ให้อยู่ได้นานที่สุด
ตอนเกิดภัยพิบัติขึ้น ตามร้านมือถือต่างๆจะมีบริการให้ชาร์ตแบตได้โดยไม่มีค่าบริการ แต่เราเองก็ควรเตรียมชุดแบตเตอรี่สำรองเอาไว้ใช้งานในยามฉุกเฉินเองด้วย นอกจากนี้ก็ยังควรเตรียมแบตเตอรี่พลังงานแสงอาทิตย์หรือแบบปั่นไฟเองด้วยมือได้ก็จะยิ่งเป็นการดี
สำหรับโทรศัพท์สาธารณะ ถ้าแผงวงจรหรือตัวเครื่องสื่อสารไม่มีอะไรเสียหายก็สามารถใช้งานได้แม้ไฟจะดับ ทว่า อย่างไรก็ดี ควรได้มีการเตรียมเหรียญไว้สำหรับโทรไว้จำนวนเพียงพอด้วย
NTT มีการติดตั้งโทรศัพท์สาธารณะและเปิดให้ใช้สำหรับกรณีการเกิดภัยพิบัติ
1. โทรศัพท์สาธารณะติดตั้งเป็นกรณีเฉพาะ
ในเขตซึ่งมีการออกกฏหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติหรือเขตที่เกี่ยวข้องจะมีการติดตั้งโทรศัพท์สาธาณะที่ไม่คิดค่าบริการไว้
2. โทรศัพท์สาธารณะสำหรับการโทรกรณีพิเศษ
ในกรณีที่โทรศัพท์สาธารณะติดตั้งเป็นกรณีเฉพาะไม่สามารถรองรับการใช้งานได้เพียงพอ ก็จะมีการติดตั้งโทรศัพท์สาธารณะแบบเสียค่าบริการตามความจำเป็นด้วย
3. การเปิดใช้โทรศัพท์สาธารณะตามท้องถนน
กรณีที่โทรศัพท์สาธารณะตามท้องถนนอยู่ในสภาพใช้การไม่ได้เป็นเวลานาน เช่น เกิดไฟดับทำให้ใช้บัตรโทรศัพท์โทรไม่ได้ ในกรณีเช่นนี้สามารถเปิดใช้บริการแบบไม่เสียค่าบริการได้
NTT มีการกำหนดเบอร์ให้ใช้สื่อสารในช่วงเกิดภัยพิบัติ ซึ่งเป็นเบอร์ที่สามารถใช้ได้ทั้งโทรศัพท์ทั่วไป (แบบกด หรือแบบหมุน) และโทรศัพท์สาธารณะ หากเกิดภัยพิบัติขึ้นสามารถใช้โทรศัพท์สาธารณะสำหรับการโทรในกรณีพิเศษซึ่งจะติดตั้งไว้ในสถานที่อพยพ หรือจะโทรจากโทรศัพท์มือถือก็ได้ นอกจากนี้ยังมีบริการในการฝากข้อความหรือฟังข้อความเสียงก็ได้ด้วย
ขั้นตอนการใช้งานมีดังนี้
กดเบอร์ 「171」
กรณีจะทำการบันทึกข้อความเสียง:
กรณีจะฟังข้อความที่บันทึก:
ในการติดต่อสื่อสารกันผ่านเบอร์นี้จำเป็นต้องแจ้งถึงขั้นตอนการโทรหรือใช้งานให้ครอบครัวหรือคนรู้จักทราบร่วมกันด้วย โดยปกติข้อความที่บันทึกจะอยู่ได้ 48 ชั่วโมง
แต่การโทรกรณีภัยพิบัติเช่นนี้ไม่สามารถโทรจากต่างประเทศมาได้ กรณีที่อยากติดต่อออกนอกประเทศขอให้แจ้งไปที่คนรู้จัก เจ้าหน้าที่ธุรการ หรือทางโรงเรียนซึ่งอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้ช่วยติดต่อออกนอกประเทศให้
บริการ「web171」ซึ่งใช้ผ่านอินเตอร์เน็ตสามารถเช็คมาจากต่างประเทศได้ โดยมีเสียงแนะนำรายการเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน (จีนกลาง) เกาหลี แต่หากเจ้าตัวหรือครอบครัวที่อยู่ในต่างประเทศไม่มีปัญหาเรื่องการใช้งานจากหน้าจอก็สามารถใช้งานได้เลย รายละเอียดสามารถดูเพิ่มเติมได้จากเวบไซต์ด้านล่างนี้
ตอนเกิดภัยพิบัติขึ้น ให้ทดลองใช้โทรศัพท์ อีเมล์ หรืออินเตอร์เน็ตที่อยู่รอบตัวดูว่ามีอะไรใช้ได้บ้างและให้ใช้สิ่งนั้นเพื่อติดต่อ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่ามีช่องทางการติดต่อ (หรือบริการ) แบบใดบ้างที่ยังสามารถใช้ได้ในขณะนั้น จากนั้นลองติดต่อไปยังครอบครัวหรือคนรู้จักด้วยวิธีการสื่อสารในช่วงภัยพิบัตินั้น แต่อย่างไรก็ตาม เคยมีบางกรณีที่ฝากข้อความผ่านกระดานข้อความสำหรับภัยพิบัติไว้แต่ไม่มีใครเช็คข้อความเกิน 48 ชั่วโมงจนข้อความหายไปก็มี
การติดต่อไปยังต่างประเทศโดยตรงจะทำได้ค่อนข้างยากในช่วงเวลาดังกล่าว ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ขอให้พยายามติดต่อผ่านช่องทางติดต่อไปยังพื้นที่อื่นๆในประเทศดูก่อน